ก่อนอื่นต้องบอกว่ากระทู้นี้ไม่ได้ตั้งขึ้นเพื่อจะจุดประกายให้ทุกคนลาออกจากงานประจำ
แต่เราอยากจะมาแชร์เรื่องราวของเราเอง เผื่อจะมีประโยชน์กับคนอื่นๆ บ้าง
และที่โพสต์ในช่วงวันแม่เพราะรู้สึกอินเป็นพิเศษ
เผื่อวันนึงลูกชายอ่านหนังสือได้แล้วกลับมาอ่านเจอกระทู้นี้ เค้าจะได้รู้ว่าแม่ของเค้าพูดถึงเค้าว่ายังไงบ้างค่ะ
เราเป็นคนนึงที่ใช้ชีวิตเหมือนเพื่อนๆ หลายคน มีงานประจำที่เงินเดือนไม่ได้ขี้เหร่
มีแฟนที่คบกันมาหลายปี และมีความฝันอยากมีครอบครัว มีลูกน่ารักๆ เหมือนที่ผู้หญิงหลายคนฝัน …
งานอดิเรกของเราคือการวาดรูปค่ะ แรกๆ ก็วาดเล่นกับเพื่อนๆ ขีดเขียนไปเรื่อยมาตั้งแต่สมัยเรียน
จนมีคนเห็นแววว่าฝีมือพอไปวัดไปวาได้ เราเลยได้เป็น “นักวาดภาพประกอบ” ไปโดยปริยาย ซึ่งเป็นงานที่ทำแล้วมีความสุขมาก
(แท้กห้องการ์ตูน เผื่อใครอยากวาดการ์ตูนเป็นอาชีพนะคะ)
ลายเส้นของเราเองค่ะ มีใครคุ้นๆบ้างมั้ยเอ่ย?
เมื่อสามีขอแต่งงาน การวางแผนครอบครัวก็เริ่มต้นขึ้น…
เราทั้งคู่มีความคิดคล้ายๆ กัน ว่าเราอยากมีเวลาให้ลูกอย่างเต็มที่อย่างน้อยก็คนใดคนหนึ่ง
แต่ด้วยค่าใช้จ่ายของการมีลูกที่ทุกๆ คนกังวล (เราก็กังวล 555), ความมั่นคงของรายได้ (ข้อนี้ยิ่งกังวลใหญ่)
บวกกับอีกสารพัดความกังวล ก็ทำให้ชั่งใจว่าจะเลือกทางไหนดี …
สุดท้ายเราตัดสินใจลาออกจากงานประจำ ด้วยความเชื่ออย่างเดียวเลยว่า “ไม่มีอะไรที่คน(จะ)เป็นแม่ทำไม่ได้)
… และงานไม่ประจำของเราก็เริ่มต้นขึ้นค่ะ
เราใช้ความสามารถในการวาดรูป (ที่แทบจะเป็นอย่างเดียวที่มี 555) เป็นช่องทางการหารายได้ค่ะ
อะไรที่เกี่ยวกับการวาดรูป รูปจะไปอยู่ที่ไหน ยังไง ไม่ว่าจะต้องการรูปอะไร ถ้าเราพอจะวาดได้เรารับหมด
เราออกเปิดบู๊ทรับวาดรูปตามงานต่างๆ , รับทำเคสโทรศัพท์, การ์ดแต่งงาน, ผ้าพันคอ,
ภาพประกอบหนังสือต่างๆ, แบ็คดรอปงานแต่งงาน, ลายเสื้อ ฯลฯ ชนิดที่เรียกว่า “ไม่เลือกงาน – ไม่ยากจน” ก็ว่าได้
ตอนนั้นชีวิตเปลี่ยนมากค่ะ จากสาวออฟฟิซแต่งตัวสวยๆ ชีวิตชิลๆ มีรายได้คงที่
กลายเป็นคนที่ต้องจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง ทั้งฝึกบริหารเวลา บริหารเงิน รวมไปถึงบริหารจิตใจด้วยค่ะ
เพราะงานศิลปะใช่งานที่ลงมือทำปุ๊บจะได้ปั๊บ
แต่ตอนนั้นนึกอย่างเดียวเลยว่า “เพื่อลูก (ในอนาคต) ๆๆๆ” ประกอบกับกำลังใจที่ดีจาก (ว่าที่) สามีและคนรอบข้างทุกคน
สิ่งที่เราคิดว่าคงเป็นไปไม่ได้ ก็ค่อยๆ ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ
เมื่องานไม่ประจำของเราเริ่มอยู่ตัว เราก็แต่งงานและตัดสินใจมีลูกค่ะ …
ถ้าใครพอจำได้ สามีเคยมาตั้งกระทู้ถามชาวพันทิปว่า “แม่ชื่อฝน พ่อชื่อฟ้า ลูกจะชื่ออะไรดี?”
http://pantip.com/topic/30886836
ต้องขอบคุณทุกคนมากๆ นะคะที่ช่วยกันออกไอเดียมากมาย และชื่อของลูกเราก็คือ “น้องธันเดอร์” ค่ะ
…
ยิ่งเด็กชายตัวน้อยค่อยๆ โตขึ้น เราก็ค่อยๆ ทำทุกอย่างมากขึ้นอย่างที่ตัวเองก็ไม่รู้ตัวค่ะ
รูปวาดของเราเริ่มมีบทบาทมากขึ้น ได้อยู่ในชิ้นงานโฆษณาประชาสัมพันธ์บ่อยขึ้น
เราเริ่มทำไลน์คาเมร่าและสติ๊กเกอร์ไลน์
แรกๆ ก็ไม่คิดว่าจะประสบความสำเร็จนะคะ แต่ล่าสุด ติดอันดับ 1 ใน 10 ก็ดีใจสุดๆ แล้วค่ะ
ถึงตอนนี้ เราดีใจมากที่การขีดๆเขียนๆ ในวัยเด็กของเราไม่สูญเปล่าเลย
(ใครที่ชอบวาดการ์ตูน ลองทำสติ๊กเกอร์ไลน์ดูก็ได้นะคะ)
เราสนุกกับการแต่งตัวและถ่ายรูปให้ลูกชายมากๆ ค่ะ
ใครบอกว่ามีลูกชายแล้วจะเล่นแต่งตัวได้ไม่สนุก ขอเถียงคอเป็นเอ็นเลย
ถ้าไม่เชื่อ… ธันเดอร์พิสูจน์ให้ดูได้ครับ (รูปมีลายน้ำเยอะไปหน่อย ขอโทษด้วยนะคะ)
สิ่งที่เราดีใจมากอีกอย่างนึงก็คือ ธันเดอร์สนุกกับการมีส่วนร่วมในทุกอย่างที่เราทำค่ะ
เราไม่เคยต้องบังคับให้ธันเดอร์ถ่ายรูปหรือใส่เสื้อผ้าชิ้นที่เราเลือก
(คิดไปเองว่าลูกคงรู้ว่านี่คือการหาเลี้ยงชีพของแม่ 555)
และรูปแต่ละรูปที่ธันเดอร์ได้ถ่ายไว้ก็จะบอกเค้าในอนาคตได้ค่ะ
ว่าเค้ามีส่วนร่วมกับทุกบาททุกสตางค์ที่หล่อเลี้ยงครอบครัวของเรามาตั้งแต่ยังเล็กๆ เลย
มาถึงตรงนี้… เราอยากบอกผู้หญิงทุกคนที่กำลังเป็นแม่ หรืออยากเป็นแม่ก็ได้นะคะว่า…
เราเป็นคนที่ไม่ได้มีต้นทุนสูงกว่าคนอื่นๆ ไม่ได้เกิดมาสบายและร่ำรวย
แต่เชื่อเถอะค่ะว่าถ้าผู้หญิงอย่างเรานึกจะทำอะไรเพื่อลูกและครอบครัวที่เรารัก เราสามารถทำได้ทุกอย่างค่ะ
เราเองถือว่าโชคดีที่พ่อแม่ของเราท่านยังแข็งแรงดีอยู่ ดังนั้นในขณะเรายังมีแรง มีเวลาและมีพลัง
จึงบุกตะลุยทำทุกอย่าง เพราะนอกจากดูแลลูกและสามีแล้ว เราก็ต้องหาโอกาสดูแลและตอบแทนบุญคุณของพ่อแม่ด้วย
3 ปีที่ผ่านมาหลังออกจากชีวิตใน comfort zone อย่างงานประจำของเราอาจจะตะกุกตะกักไปบ้าง เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าบ้าง
แต่เป็นช่วงเวลาที่เราได้พิสูจน์ศักยภาพของตัวเอง และในขณะเดียวกันก็พิสูจน์ “ความรัก” ของสามีที่คอยเคียงข้างเราอยู่ตลอดด้วย
… ตอนนี้สามีก็ออกจากงานประจำแล้วค่ะ มาช่วยทำงานด้วยกันอย่างเต็มตัว
และสิ่งที่ตามมาก็คือเวลาของครอบครัวที่ได้อยู่ด้วยกันเพิ่มมากขึ้นสมใจเราทั้งคู่เลย
ในโอกาสวันแม่ปีนี้ เราขอเป็นหนึ่งในกำลังใจให้กับคนที่เป็นแม่ทุกคนนะคะ
ไม่ว่าวันนี้คุณจะเหน็ดเหนื่อยแค่ไหน .. แต่เราเชื่อว่า คนเป็นแม่รู้ดีเสมอว่าเราเหนื่อยเพื่อใคร
ขอให้เพื่อนๆ ทุกคน ได้เป็น “แม่ที่มีความสุข” … แค่นั้นเราว่าก็เพียงพอค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่ะ
CR : Fahw สมาชิกเว็บไซต์
ที่มา : http://pantip.com/topic/34043672